6 ต.ค. 2555

พระคาถาสวดตามกำลังวัน




คาถาสวดบูชาพระอาทิตย์ 6 จบ

อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหะมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม
วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสนา ฯ

คาถาสวดบูชาพระจันทร์ 15 จบ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ

คาถาสวดบูชาอังคาร 8 จบ

ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะมะตันทิโต สุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ เอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เส ฯ

คาถาสวดบูชาพุธกลางวัน 17 จบ

สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ

คาถาสวดบูชาพฤหัสบดี 19 จบ

ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง เยนะ สังวิหิตารักขัง มหาสัตตัง วเนจรา จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง ฯ

คาถาสวดบูชาศุกร์ 21 จบ

อัปปะสันเนหิ นาถัสสะ สาสะเน สาธุ สัมมะเต อะมะนุสเนหิ จัณเฑหิ สะทา กิพพิ สะการิภิ ปะริสานัญจะ ตัสสันนัง มะหิงสายะ จะ คุตติยา
ยันเทเสหิ มะหาวีโร ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ

คาถาสวดบูชาเสาร์ 10 จบ 

ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตาโวโรเปตา เตน สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ คัพภัสสะ ฯ

คาถาสวดบูชาพุธกลางคืน 12 จบ

สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ

คาถาสวดบูชาพระเกตุ (สำหรับท่านที่ไม่ทราบวันเกิดตนเอง) 9 จบ

ชะยัง เทวะมะนุสสานัง ชะโย โหตุ ปะราชิโต มาระเสนา อะภิก กันตา สะมันตา ทะวาทะสะโยชะนา ขันติเมตตาอะธิฏฐานนา วิทธังเสตวานะ จักขุมา ภะวาภะเว สังสะรันโต ทิพพะจักขุง วิโสธยิ ปะริยาปันนากิโสตถานัง ทิตายะ จะ สุขายะ จะ พุทธะกิจจัง วิโสเธตวา ปะริตตันตัมภะณามะ เหฯ 

29 ส.ค. 2555

ความรู้เรื่องฤกษ์ต่าง ๆ และการนำมาใช้




ข้อยกเว้นสำหรับผู้เกิดวันทั้ง 7

        
เป็นข้อยกเว้นที่ห้ามใช้ฤกษ์สำหรับคนเกิดวันต่าง ๆ ถึงจะมีในรายการวันฤกษ์ดีประจำปี หรือเดือนไหน ๆ ก็ห้ามใช้เด็ดขาด เพราะเป็นวันศัตรูและกาลกิณีกับวันเกิด

    1.
ผู้เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันศุกร์และวันอังคาร

    2.
ผู้เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดี

    3.
ผู้เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันจันทร์และวันอาทิตย์

    4.
ผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอังคารและพุธ (กลางคืน)

    5.
ผู้เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันเสาร์

    6.
ผู้เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางคืน) และวันเสาร์

    7.
ผู้เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางวัน) และวันศุกร์ 

    8.
ผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพฤหัสบดีและวันพุธกลางวัน 

          
ส่วนจะเอาฤกษ์ไปใช้นั้นให้อ่านความรู้เกี่ยวกับฤกษ์ด้านล่างนะครับ จะได้เอาฤกษ์ไปใช้ถูกงาน 

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องฤกษ์

         
ฤกษ์ หมายถึง คราวหรือเวลา ความปลอดภัยหรือความสำเร็จสมประสงค์ อำนวยความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ประกอบการนั้น ๆ ฤกษ์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง

        
ฤกษ์บน เป็นชัยมงคลเบื้องสูง โดยถือตำแหน่งของพระจันทร์และดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ เป็นหลัก คือ กำหนดโดยจันทร์ พระจันทร์ต้องดีไม่เป็นอริ มรณะ และวินาศแก่ผู้ประกอบการ พระจันทร์โคจรให้คุณเช่นจันทร์ครุสุริยา ทางโหราศาสตร์ใด้กำหนดฤกษ์ไว้ 9 ฤกษ์ ได้แก่

     
ทลิทโทฤกษ์     มหัทธโณฤกษ์   โจโรฤกษ์
     
ภูมิปาโลฤกษ์     เทศาตรีฤกษ์     เทวีฤกษ์
     
เพชฌฆาตฤกษ์     ราชาฤกษ์      สมโณฤกษ์

       
ความหมายหรือวิธีการใช้แต่ละฤกษ์ดูด้านล่างนะครับ เพราะแต่ละฤกษ์มีการนำไปใช้เฉพาะเรื่อง เช่น การขอแต่งงาน หมั้นสาว ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ ฯลฯ ให้ใช้ ทลิทโทฤกษ์

       
ฤกษ์ล่าง ซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลทางเบื้องใต้ฟ้า หรือเบื้องต่ำบนพื้นดิน โดยมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยให้วันทั้ง 7 ประกอบด้วยดิถี ขึ้น แรม และเดือน ปี เป็นหลักในการคำนวณนับ เช่น วันธงชัย วันอธิบดี วันอุบาทว์ และวันโลกาวินาศ และมีดิถี คือ ขึ้น แรม ดิถีธงชัย ดิถีพิฆาต อีกทั้งวันจม วันฟู วันลอย กทิงวัน อัคนิโรธ ทักทิน ยมขันธ์ จัดเป็นฤกษ์ย่อยต่าง ๆ รวมเรียกว่า "ฤกษ์ล่าง" หรือ (ภูมิดล)

       
หมายเหตุ : ฤกษ์ที่ให้ไว้ด้านบน (ฤกษ์มงคลต่าง ๆ ในเดือนสิงหาคม)  นั้นคำนวณจากหลักฤกษ์บนและฤกษ์ล่างประกอบกัน

 
ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้

1.
ทลิทโทฤกษ์

       
ได้แก่ฤกษ์ที่ 1 , 10 และ 19 เรียกว่า ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้มักน้อย ผู้เข็ญใจ ผู้ขอ ผู้ต้องเหน็ดเหนื่อย ผู้อดทน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง

       
ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ของ "ชูชก" มีพระอาทิตย์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" คือฤกษ์ที่เต็มโดยสมบูรณ์ คือฤกษ์ที่ไม่ขาดแยกแตกบาทฤกษ์ไปอยู่คนละราศี และเรียกว่า จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์

       
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การขอสิ่งต่างๆ เพราะถือว่าเป็นฤกษ์ของชูชก จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น  การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา เปิดร้านขายของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน ทำการใด ๆ ที่ริเริ่มใหม่

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
ฤกษ์นี้ใช้สำหรับ ขอผัดผ่อนหนี้ ขอหมั้น ขอแต่งงาน ขอทำงาน ขอสมัครงาน ขอร้อง สู่ขอ ขอคืนดี ขอรี่ไร ขอส่วนแบ่ง ขอกู้เงิน ยืมเงิน ขอผ่อนผัน ขอให้อุปการะ ขอให้ค้ำประกัน ขอซ่อม ขอร้อง ร้องขอ ขอความเป็นธรรม ขอร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ สรุปคือบรรดาการขอ (ขอร้อง) ทุกอย่างให้ใช้ฤกษ์นี้
 
2.
มหัทธโนฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 2 , 11 และ 20 เรียกว่า มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์"

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

    
เป็นการกระทำมั่นคงถาวร เช่น สร้างบ้านให้อยู่นานๆ เปิดร้าน เปิดบริษัท เอารถออกจากอู่ ถอยรถใหม่ เปลี่ยนชื่อ อุปสมบท ลาสิกขา และงานมงคลทั้งปวง
 
3.
โจโรฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 3 , 12 และ 21 เรียกว่า โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้ทำลายล้าง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์"  คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น เป็นนวางค์ที่ร้ายแรงมาก ไม่ควรให้ฤกษ์มงคล

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยง ๆ ในระยะสั้น ๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบบใช้กำลัง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

         โจรจะไปปล้นบ้านใครให้ถือเอาฤกษ์นี้  ฤกษ์แหกคุก ฤกษ์หนีการจับกุม การเอาเปรียบคนอื่น จะไปจับผิดใครให้ใช้ฤกษ์นี้ การปรับทุจริต เป็นฤกษ์ฉกฉวย หรือเป็นการข่มคนอื่น ไปต่อสู้คดี ขึ้นโรงขึ้นศาล คือการทำเพื่อให้ชนะคนอื่น หรือแม้กระทั่งการเอาเปรียบคนอื่น ฤกษ์นี้ยังหมายถึง การท่องเที่ยว การผจญภัย การสอบชิงทุน การแข่งขัน การแข่งกีฬา การข่มขวัญศัตรู การปรับปรุงแก้ไข การปฏิวัติ รวมทั้งเอารถออกจากอู่ (จากการซ่อม) หรือออกจากโชว์รูม (ถอยรถใหม่) ฤกษ์นี้ไม่เหมาะในการลงทุน อาจทำให้ผิดหวังและถูกเบียดเบียนจากคนในเครื่องแบบ
 
4.
ภูมิปาโลฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 4 , 13 และ 22 เรียกว่า ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีพระพุธเป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่าง ๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน การเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
ฤกษ์นี้ที่ใช้ในการทำให้มั่นคงระยะยาว ไม่ใช่ฤกษ์หวังผลในระยะสั้นๆ เช่น สร้างหอพัก สร้างบ้านจัดสรร เพื่อกินกำไรในระยะยาว ให้ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่หวังผลรวดเร็ว แต่หวังผลในระยะยาวคือนานๆ (มั่งคงถาวร) ฤกษ์นี้เหมาะสำหรับ ลงเสาเข็ม ตั้งศาลพระภูมิ ก่อสร้างวัตถุที่ถาวร หอพัก การพัฒนาการเกษตร เปิดร้าน เปิดโรงงานอุตสาหกรรม สัญญาซื้อขายที่หวังผลระยะยาว อะไรที่เจราที่หวังผลสำเร็จในระยะยาวและมั่นคงถาวร (ไม่ฉาบฉวย) ให้ใช้ฤกษ์นี้ และงานมงคลทั้งปวง
 
5.
เทศาตรีฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 5 , 14 และ 23 เรียกว่า เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หญิงแพศยา ผู้ท่องเที่ยว บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์"  หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีพระเสาร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มังกรกับกุมภ์ เป็นฤกษ์อกแตก หรือ พินทุฤกษ์ หรือ ตินฤกษ์

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมาก เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเร่ร่อน อาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
เป็นฤกษ์ที่ชอบคนเยอะ ๆ เช่น คนมาเที่ยว รื่นเริง บันเทิง สนุกสนาน เช่น เปิดโรงแรม เปิดสรรพสินค้า เปิดอาบ อบ นวด เปิดสถานบันเทิง เงินแสดงคอนเสิร์ตของนักดนตรี เปิดบู๊ตแสดงสินค้า หรือกิจการที่ต้องการให้คนต่างประเทศมาเที่ยว รวมทั้งการทำอะไรที่สนุกสนาน รื่นเริง ฟุ่มเฟือย (บาร์ ไนต์คลับ โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร โรงแรม ตลาดสด ช๊อปปิ้งเซ็นเตอร์)
 
6.
เทวีฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 6 , 15 และ 24 เรียกว่า เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีพระพฤหัสฯ เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า การประชาสัมพันธ์ ลาสิกขาบท ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานเพื่อความสงบเรียบร้อย และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
ฤกษ์สู่ขอ หมั้น แต่งงาน ขอความช่วยเหลือจากสตรี (ผู้หญิง) ฤกษ์ที่ใช้ความโอ่อ่า หรูหรา สง่า งาม สวย รวมทั้งศิปละ ออกแบบ ตกแต่ง สวย หรู เช่น โชว์อัญมณี เครื่องประดับ ให้ใช้ฤกษ์นี้
 
7.
เพชฌฆาตฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 7 , 16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำหน้าที่ฆ่า มีพระราหูเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 แตกขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก"  คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลเลย เป็น ฉันทฤกษ์ (ฤกษ์แตกขาด)

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ คล้ายกับโจโรฤกษ์ แต่ฤกษ์นี้จะแรงกว่า

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
ฤกษ์แห่งความเด็ดขาด เผด็ดการ งานปราบปราม กำจัดศัตรู ทำพิธี ไสยศาสตร์ ฤกษ์ที่ต้องการใช้ความเด็ดขาด กล้าหาญ การตัดสินใจที่เด็ดขาด จะเลิกกับแฟนให้ใช้ฤกษ์นี้ได้ หรือสามีภรรยาจะหย่ากันให้ใช้ฤกษ์นี้ การผ่าตัด การปลูกเศกของขลัง ใช้ฤกษ์นี้ได้ ฤกษ์นี้สามารถใช้ในการเปลี่ยนชื่อได้ เพราะต้องการความมั่งคง หนักแน่น ไม่ต้องต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
 
8.
ราชาฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 8 , 17 และ 26 เรียกว่า ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่(สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม) และ งานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

        
ฤกษ์สูง ฤกษ์ใหญ่โต เป็นฤกษ์ของบุคคลชั้นสูง มีเกียรติ หรือว่างานนั้นมีผู้ใหญ่ เจ้านายมาร่วมทำพิธีด้วย ฤกษ์นี้ใช้ได้กับงานมงคลทั้งปวง
 
9.
สมโณฤกษ์

        
ได้แก่ฤกษ์ที่ 9 , 18 และ 27 เรียกว่า สมโณฤกษ์ แปลว่า (สงบเรียบร้อย นักบวช นักสอนศาสนา มีพระเกตุเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน แต่บาทฤกษ์สุดท้ายนี้เป็นนวางค์ขาดสุดราศีพอดี เรียกว่า "จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์" จึงเป็นจุดที่มีผลเสียให้เกิดอันตรายต่างๆ ในการแข่งขัน ใช้ได้เฉพาะกิจเกี่ยวกับความสงบความสุจริต

        
เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ

สรุปการใช้ฤกษ์นี้

         
ฤกษ์สงบ บวชพระ สึกพระ งานเกี่ยวกับศาสนา งานที่ไม่หวังผลรวดเร็ว ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการช่วงชิงกับผู้อื่น งานการกุศลทั้งปวง เช่น สร้างศาลาการเปรียญ หรือถาวรวัตถุ งานพุทธาภิเษก หล่อพระ ปฏิบัติธรรม เรียนธรรมะ เปิดสำนักโหรดูดวง เปิดห้องสมุด เปิดสถานที่สาธารณะ ทำบุญต่ออายุ ต่อชะตา ขึ้นบ้านใหม่ เปิดมูลนิธิ เผยแพร่ศาสนา งานการกุศลทั้งหลาย 



11 มิ.ย. 2555

พระสุนทรีวาณี พระปางพิเศษ ศักดิ์สิทธิ์...ศักดิ์สิทธิ์


คาถาพระสุนทรีวาณี
ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ
(ท่อง สาม ห้า หรือ เจ็ด จบพร้อมคำแปล)
ทำการค้าขาย โชคลาภ ให้ภาวนาเพิ่มว่า...
เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก

โส มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา

สา มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา

คำแปล
นางฟ้า คือพระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ

ประวัติ..พระสุนทรีวาณี
เป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร (เพชร) อยู่ในหัตถ์
พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำ
พระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา
สืบได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา
สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน ครั้นต่อมารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถาวยคาถานี้ให้จำเริญ ครั้นเสด็จกลับจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์ และทรงยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา ๕ ปี จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานคืนวัด ปัจจุบันประดิษฐานที่ พระตำหนัก (คณะ ๖) วัดสุทัศนเทพวราราม ได้มีการสร้างเหรียญ และเหรียญหล่อแล้วหลายครั้ง พร้อมกับหล่อองค์บูชาขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ไว้ด้วย

หมายเหตุ
พระสุนทรีวาณี เป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคล มหาลาภต่าง ๆ จึงเหมาะแก่ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วไปจะมีไว้บูชาเพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน  ผู้บูชาเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และความสำเร็จสมหวัง..

30 พ.ค. 2555

สีที่ถูกโฉลกของคนในแต่ละวันเกิด



คนเกิดวันอาทิตย์

สีแดง
เสริมสง่าราศี มากด้วยบุญญาบารมี มีอำนาจวาสนา คนนบนอบยำเกรง

สีดำ
เสริมความน่าเคารพนับถือ เสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การเงิน

สีขาว สีครีม
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีม่วงเปลือกมังคุด
เสริมดวงด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และดวงเรื่องการเงิน

สีเขียว
เสริมดวงให้คนรักเมตตา อุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือทำให้สะดวกราบรื่นในเรื่องต่างๆ

สีบรอนซ์ สีเทา สีทอง
เสริมดวงเรื่องเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูล

สีฟ้า สีน้ำเงิน
เป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันจันทร์

สีส้ม สีเหลืองแก่
เสริมดวงเรื่องการเงิน ความมั่นคง ทุนทรัพย์ ราคาและคุณค่าที่จะเพิ่มพูนให้แก่ตนเองในปัจจุบันและภายภาคหน้า

สีดำ
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีน้ำเงิน สีทอง
เสริมเสน่ห์ ผู้ใหญ่รักเมตตาและเอ็นดู มีแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

สีม่วงเปลือกมังคุด
เสริมดวงด้านความสะดวกราบรื่นทุกอย่าง

สีชมพู
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีฟ้า
เสริมดวงให้ประสพความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีเขียว
อำนาจวาสนา บารมี เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาคน

สีแดง
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันอังคาร

สีม่วงแก่
เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีดำ
เสริม ดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ

สีบรอนซ์ สีเทา
เสริมความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ

สีทอง สีแสด
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีน้ำตาล
เสริมดวงด้านความมั่นคงในชีวิต เช่นมั่นคงเรื่อง หลักทรัพย์ ทรัพย์สิน หน้าที่การงาน

สีเขียว
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง

สีแดง สีชมพู
เสริมดวงให้ประสพ ผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีขาว สีเหลืองนวล
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพุธ (กลางวัน 06.01-18.00)

สีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านความเคารพนับถือ ยกย่องยอมรับ

สีน้ำตาล สีทอง
เสริม ดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ

สีขาว สีเหลืองอ่อน
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการ อุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีเทา สีบรอนซ์
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีดำ
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

สีม่วงแก่
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีเขียว
เสริมดวงด้านเสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

สีชมพู สีแสด
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพุธ (กลางคืน 18.01-06.00)

สีชมพู
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ

สีดำ
เสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน

สีเทา สีบรอนซ์
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีม่วงแก่
เสริม ดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

สีแดง สีน้ำตาล
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีส้ม สีทอง
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพฤหัสบดี

สีขาว
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ

สีแดง
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีเทา สีบรอนซ์
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

สีฟ้า
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีเขียว
เสริม ดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีส้ม สีทอง
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

สีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันศุกร์

สีเขียว
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ

สีสีแดง สีทอง
เสริมดวงด้านความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน

สีแดง สีชมพู
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีเหลือง
เสริม ดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีดำ
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

สีน้ำตาล
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีฟ้า สีน้ำเงิน
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

สีเทา สีบรอนซ์ สีม่วง
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันเสาร์

สีแดง
เสริมดวงให้คนยอมรับเชื่อถือและไว้วางใจ

สีชมพู
เสริม ดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

สีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

สีทา สีบรอนซ์
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

สีทอง สีเหลือง
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

สีดำ สีม่วงแก่
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

รถสีเขียว สีแสด
เป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

7 ม.ค. 2555

วันขอเงินพระจันทร์ สร้างสิริมงคลกันในวันอมาวสี ปี 2555 นี้ มี 12 ฤกษ์

วันขอเงินพระจันทร์ สร้างสิริมงคลกันในวันอมาวสี ปี 2555 นี้ มี 12 ฤกษ์


วันขอเงินจากพระจันทร์ ปี 2555 ขอพรจากฟ้าวันจันทร์ดับ นับว่าเป็นวันที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากเพราะว่าหลายๆคนได้ ขอพรพระจันทร์ ในวันขอเงินพระจันทร์ แล้วสมหวังเป็นจำนวนมากเลยนำ วันขอเงินพระจันทร์ ปี 2555 มาให้ได้ขอพรจากพระจันทร์กันต่อในปีนี้ เริ่มที่วันตรุษจีน 2555
วันจันทร์ดับ (New Moon วันนิวมูน) ประจำปี 2555 & วันอมาวสี 2555 วันไหว้ขอเงินพระจันทร์ 2555
       
          วิธีไหว้พระจันทร์ขอเงินนั้น เราสามารถที่จะขอได้ในช่วงก่อนและหลังเวลาเกิดวันจันทร์ดับหรือวันอมาวสี 8 ชั่วโมง วิธีการก็เช่น เขียนขอสิ่งที่ปรารถนาที่สอดคล้องความเป็นจริง ไม่เกิน 8 ข้อ ไว้บนมือข้างไหนก็ได้ ให้เชื่อมั่นศรัทธา ทำจิตให้นิ่ง มีสมาธิ ต้องขอเพื่อตัวเองเท่านั้น วันขอพรจากฟ้า วันอมาวสี 2555ขอแทนคนอื่นไม่ได้ ห้ามให้ใครรู้ว่าขออะไรและควรขอในเวลาที่สงบ เริ่มตั้งแต่

1. วันจันทร์ที่  23 มกราคม 2555 (แรม 15 ค่ำ เดือน 2  ปีเถาะ) เวลา 14.42 น.
2. วันพุธที่  22 กุมภาพันธ์ 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4  ปีเถาะ) เวลา 05.38 น.
3. วันพฤหัสบดีที่  22 มีนาคม 2555 (แรม 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะ) เวลา 21.42 น.
4. วันเสาร์ที่  21 เมษายน 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง) เวลา 14.23 น.
5. วันจันทร์ที่  21 พฤษภาคม 2555 (ชึ้น 1 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง) เวลา 6.50 น.
6. วันอังคารที่  19 มิถุนายน 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง) เวลา 22.06 น.
7. วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฏาคม  2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน8/8 ปีมะโรง) เวลา 11.29 น.
8. วันศุกร์ที่  17 สิงหาคม 2555 (แรม 15 ค่ำ เดือน 8/8 ปีมะโรง) เวลา 22.58 น.
9. วันอาทิตย์ที่  16 กันยายน 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง) เวลา 9.14 น.
10. วันจันทร์ที่ 15 ตุลาดม 2555 (แรม 15  ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง) เวลา 19.07น.
11. วันพุธที่  14 พฤศจิกายน 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง) เวลา 5.13 น.
12. วันพฤหัสบดีที่  13 ธันวาคม 2555 (แรม 15 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง) เวลา 15.45 น.
           
       วันขอเงินพระจันทร์ ปี 2555 ลองขอดูไม่เสียหายอะไรเพราะว่าคุณอาจจะได้พบกับความมหัศจรรย์เหมือนที่ใครหลายๆคนได้พบเจอจากการขอพรพระจันทร์ อาร์ตี้ขอให้สมหวังตลอดปี 2555 นี้นะครับ